Apple ออก iOS และ ipadOS 16.4 มาแล้ว
Phone
iOS 13.5
iOS ของ Apple มาไกลถึง version 13.5 แล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ หลังๆ อาจจะดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีอะไรหวีอหวาเหมือนสมัยก่อน แต่ก็ถือว่าเป็น OS ที่ stable มากๆ ที่ใช้ iPhone ทุกวันนี้เพราะไม่อยากปวดหัวกับ Android
iPhone 5 แบตบวม
อาทิตย์ที่แล้วเจ้า iPhone เริ่มเกิดอาการปุ่ม Home ใช้การได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ลอง search ดูก็มีคนให้ calibrate ใหม่ แต่ลองแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น จนเมื่อวานสังเกตว่าจอทางด้านซ้ายมันปูดขึ้นมา เลยได้ความรู้ว่ามันเป็นเพราะ battery Lithium Polymer มันบวม
ไปหาศูนย์ DTAC ต้องเปลี่ยนเครื่องสถานเดียว 9,200 บาท เลยตัดสินในเข้าร้านโทรศัพท์ใน Digital Gateway เจอร้านที่คุยกันพอเข้าท่า เลยเปลี่ยน battery ไปในราคา 1,350 เสร็จภายใน 15 นาที พอเปลี่ยนแบตเสร็จลองปุ่ม Home ดู อาการที่ติดๆ ดับๆ ก็หายไปด้วย
ที่ต้องรีบเปลี่ยนเพราะเห็นแล้วว่า Li-Po เวลามันบวมแล้วใหม้ มันรุนแรงแค่ไหน
BBM You are late
ครั้งหนึ่งใครๆ ก็ใช้ Blackberry ไม่ใช่เพราะมันมี App ดีมากมาย แต่หลักๆ ก็เพราะมันมี Blackberry Messenger ที่ส่งข้อความให้คนที่ใช้ BB ด้วยกันได้ทันที เรียกว่า ติ๊งๆ กันได้ทั้งวันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทั้งสาวก iPhone และ Android ต่างก็มองตาปริบๆ ประมาณว่า “คุยกับฉันบ้าง”
แล้วก็มี Whatsapp ที่เริ่มทำให้กระแสเปลี่ยน ทั้ง iPhone และ Android ในที่สุดก็คุยหากันได้ แต่มาเต็มที่ก็เมื่อ LINE ออกมาพร้อมสติกเกอร์มากมายหลายแบบ คนใช้แทบไม่ต้องคุยกัน ส่งสติกเกอร์ให้เดาคำพูดกันทั้งวัน
คนที่ใช้ BB อยู่เดิมที่มี BBM เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตา ตอนหลังก็ต้องวิ่งหา LINE มาลงไม่งั้นไม่มีเพื่อนคุยด้วย คุยไปคุยมาเพื่อนชวนเล่นเกมส์สนุกๆ งานเข้าละซิ Blackberry ไม่มี
กระแส BB เลยหดหายไปตามกาลเวลา เหลือแต่คนที่ใช้สำหรับธุรกิจจริงๆ
ล่าสุด Blackberry ออก BBM สำหรับ iOS คงเป็นความพยายามที่จะดึผูใช้กลับมาที่ Blackberry แต่ผมว่ามันสายไปแล้ว
– Posted using BlogPress from my iPad 2 Limited Ed.
Location:Khu Khot,Thailand
My New Jawbone
![aliph-jawbone-era-bluetooth-headset-10[1]](https://kanok.net/blog/wp-content/uploads/2012/05/aliph-jawbone-era-bluetooth-headset-101.jpg "aliph-jawbone-era-bluetooth-headset-10[1]")
พึ่งได้รับหูฟัง Bluetooth ใหม่จาก US โดยสั่งซื้อจาก ebay เป็น Jawbone Era ดูจาก spec และ review ตามเวปต่างๆ แล้วก็ท่าทางจะเป็นหูฟังที่ดีที่สุดในเวลานี้ ทั้งเทคโนโลยีในการตัดเสียง มีระบบ voice control และ motion control แถมยังมี dual CPU ยัง customized ในการ load เสียงที่แจ้งเราต่างๆ ให้เลือกได้อีก 6 แบบ ที่สำคัญราคาจาก US รวมค่าส่งแล้วประมาณ 2000 กว่าๆ ถูกกว่าซื้อในเมืองไทยกว่าเท่าตัว
ส่วนคลิปติดหูนั้นมีให้เลือกทั้งแบบเกี่ยวหู และแบบจุกในหูเอง ตอนแรกคิดว่าแบบจุกหูจะไม่ถนัด แต่เนื่องจาก Jawbone จะให้ยางมาหลายขนาด พอใช้อันที่พอดีกับหูของเราแล้วแทบจะไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ที่หูเลย
แต่ปัญหาของการสั่งของทาง Internet ก็คือถ้ามีปัญหาอะไรกับของที่สั่ง การส่งของหรือการส่งซ่อมมักจะช้า ครั้งนี้ก็เหมือนกันที่อุปกรณ์เกี่ยวหูมาไม่ครบ แต่ยังดีที่ใช้แบบจุกอุดแทนได้
เห็นหลายๆ คนถือโทรศัพท์เวลาขับรถแล้วอดเสียวไม่ได้ อยากให้เห็นถึงความสำคัญของอุปกรณ์เสริมให้มากๆ ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไป
DTAC – Again and Again
หลังจากกรณีล่าสุดเรื่องเวปการจอง iPhone 4s ล่าสุดเมื่อวันนี้ก็ทำให้คนค่อนประเทศใช้เครือข่ายคุณภาพไม่ได้ไปเกินครึ่งวัน
ข่าวแว่วๆ มาว่ามีการตัดถ่ายระบบกันแล้วไม่สำเร็จ ต้อง rollback แต่กว่าจะได้ก็ทำให้คนเข้าไปบ่นกันเต็ม twitter Facebook
นับว่าเป็นอีกครั้งที่ DTAC implement อะไรบางอย่างแล้วพลาดส่งผลกระทบกับผู้ใช้ในวงกว้าง
– Posted using BlogPress from my iPad 2
DTAC–You Did It Again
DTAC หลังๆ มานี้มีคนบ่นมากมาย ตั้งแต่ที่ผมเคยเจอเมื่อปลายปีที่แล้วกรณีที่ Operation Fail ซื่งเป็นความผิดพลาดของระบบล้วนๆ จากนั้นก็เรื่องตอนเปิดขาย iPhone 4 สีขาวที่เกิดเรื่องเกิดราวที่ Paragon
พอมา iPhone 4s ตัวใหม่ที่เปิดจองก็มีการเลื่อนเพราะเคาะราคาออกมาไม่ได้ และพอเปิดจองจริงๆ ทางเวปในวันที่ 13 ก็ปรากฏว่าเวปล่มแล้วล่มอีก ผมเองจ่ายเงินไปแล้วก็ไม่ได้รับคำยืนยันกลับมา ได้แต่หวังว่าเลขจองของผมคงอยู่ในระบบที่ใดที่หนึ่งซักแห่ง ให้เจ้าหน้าที่ไปเอาออกมาได้
การเตรียมการเรื่องระบบจองเมื่อบีบให้เข้าไปที่เวปแต่ทางเดียว ไม่เข้าใจว่าทำไม่ทาง DTAC ไม่เตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ งานนี้ไม่รู้ว่าทาง DTAC หรือ dream-base.com จะต้องรับผิดชอบดี ไม่ว่าจะเป็นคนว่าจ้าง คนวางแผนหรือคน develop ระบบจองและ hosting ที่ไม่เพียงพอ
แต่ที่รู้แน่ๆ
DTAC ทำผมอีกครั้ง
Back to the Basic
เห็นกระแส iPhone กับ Android ที่แข่งกันดังมาอย่างติดๆ ในส่วนของ iPhone ก็จวนที่จะออกรุ่นใหม่อยู่รอมร่อ ทางด้าน Android จากหลายยี่ห้อก็ตบเท้าออกรุ่นใหม่กันแทบทุกเดือน เล่นเอาคนที่ชอบของรุ่นล่าสุดนั้นตามข่าวกันแทบไม่กระพริบตา
ผมเองก็ใช้ Smart Phone มาหลาย OS แล้วเหมือนกัน ตั้งแต่เจ้า PocketPC, Windows Mobile, Android และ iOS สิ่งหนึ่งที่เจอกับตัวเองก็คือ แบตเตอรี่ที่หมดเร็ว ยิ่ง feature มากเท่าไหร่ก็ยิ่งหมดเร็วขึ้นเท่านั้น อย่างเจ้า Nexus One ที่ใช้แต่ Net อย่างเดียวแทบไม่ได้ใช้โทรเลย บ่ายๆ ก็ต้องหาสายชาร์ตแล้ว ดังนั้นเมื่อเจ้า Diamond ที่เป็นเครื่องที่ใช้โทรประจำถึงแก่กาลเวลาที่ต้องเปลี่ยน ทั้ง iPhone และ Android ก็เลยโดนตัดออกจากตัวเลือก
สุดท้ายก็มาจบลงที่ Nokia C6-01ที่เป็น Symbian Anna ดู spec แล้วก็ไม่ได้ขึ้เหร่เลย เพียงแต่ App อื่นๆ ไม่เยอะมากเท่านั้น (ก็จะใช้โทรเป็นหลักอยู่แล้ว) กล้อง 8M pixel นี้มากกว่า iPhone และ Android หลายๆ รุ่นซะอีก แต่ที่สำคัญก็คือ standby ได้กว่า 10 วันบน 3G!! จริงๆ แค่เกิน 2 วันก็ดีใจจะแย่แล้ว ที่สำคัญราคาไม่ถึง 8000 บาท
ลองมาเล่นแล้วก็พบว่า C6-01 นั้นไม่ได้ขี้เหร่เลย ตัวเครื่องเป็น Stainless จับถนัดมือดี ส่วนจอนั้นดำได้ดำสนิทจริงๆ ถ้าปิดไฟในห้องแล้วจะมองไม่เห็นจอเลย การตอบสนองการเรียกใช้งานต่างๆ เร็วมาก ที่เหลือก็คงต้องมารอดูกันว่าแบตจะใช้ได้จริงๆ กี่วัน
ท่ามกลางกระแส Smart Phone ขณะนี้ ก็ยังหวังลึกๆ ว่า Nokia คงไม่ล้มหายตายจากไป เพราะ brand Nokia นี้อยู่คู่กับโทรศัพท์มือถือมาตั้งแต่เริ่ม ยิ่งไปร่วมมือกับทาง Microsoft ที่จะใช้ Windows Phone 7 กับมือถือของตัวเองในปีหน้านั้นยิ่งกังวล
เอาใจช่วยครับ
WWDC 2011–Another Year for Apple
งาน WWDC หรือ WorldWide Developers’ Conference เป็นงานประจำปีที่ทาง Apple จะมาเปิดตัวหรือแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในอดีต iPhone รุ่นแรก และ iPhone 4 ก็มาเปิดตัวในงานนี้
ปีนี้ก็จะเป็นอีกครั้งที่ Apple จะมาเปิดตัวสิ่งใหม่ๆ แต่ครั้งนี้ทาง Apple ได้บอกชื่อมาหมดแล้ว ก็คือ iCloud, Mac OS X Lion และ iOS 5 ซึ่งรายละเอียดก็คงต้องตามดูกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ Apple แฟนติดตามกันก็คือ Steve Jobs จะปรากฎตัวในงานนี้หรือไม่ เพราะได้ลาป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว
Nokia & Microsoft–Match made in Heaven, really?
พักหลังๆ กระแส Smart Phone มาแรงมา โดยที่เราจะได้ยินชื่อ iPhone และ Android เป็นหลัก ในบ้านเราเอง iPhone 4 จนทุกวันนี้ก็ยังไม่พอขาย ทั้ง 3 ค่ายปล่อยมาได้แค่วันละไม่กี่ร้อยเครื่อง จนตอนนี้เริ่มมีกระแส iPhone 5 มาแล้ว คิวคนรอ iPhone 4 ก็ยังไม่หายไปไหน ส่วน Android นั้นก็มีหลายค่ายออกเครื่องรุ่นใหม่ๆ มาทุกเดือน ทั้งจับตลาดตั้งแต่ล่างยัน super premium เรียกว่าตลาด Smart Phone นี้แทบจะไม่มีที่เหลือให้ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตอย่าง Windows Phone 7 ยืนอยู่เลย ส่วนผู้ที่ทำ handset เจ้าเก่าอย่าง Nokia ก็ไม่มีใครพูดถึงเหมือนกัน
สัปดาห์ที่แล้ว Nokia และ Microsoft ประกาศว่าจะร่วมมือกันทำพัฒนาโทรศัพท์ Smart Phone โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้าน HW ของ Nokia และ Operating System ของ Microsoft ก็คือ Windows Phone 7 (WP7) ที่พึ่งออกมาเมื่อปลายปีที่แล้วและแทบจะไม่ค่อยมีคนสนใจเลย
การร่วมมือกันครั้งนี้ผมมองว่าเป็นการหนีตายของทาง Nokia ที่ OS Symbian ที่ตัวเองใช้มาตลอดไม่ตอบสนองความต้องการและไม่สามารถเทียบรุ่นกับ iOS หรือ Andrioid ได้ เลยต้องหา OS ตัวใหม่ โดยที่มอง WP7 เป็นทางเลือกใหม่
แต่ดูเหมือนทางเลือกใหม่นั้นก็ไม่ได้สวยหรูเท่าไหร่นัก เพราะดูแล้วตอนนี้ WP7 ที่พึ่งออกมายังไม่ได้พิสูจน์ตัวเอง อีกทั้งไม่ได้เรียกเสียงฮืออาจาก user ได้เท่าไหร่ โดยที่เมืองไทยนั้นออกมาแบบที่ภาษาไทยใช้งานไม่ได้ด้วยซ้ำ
งานนี้คงไม่ต้องดูกันยาวๆ ก็คงจะเห็นผลละครับ