iOS ของ Apple มาไกลถึง version 13.5 แล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ หลังๆ อาจจะดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีอะไรหวีอหวาเหมือนสมัยก่อน แต่ก็ถือว่าเป็น OS ที่ stable มากๆ ที่ใช้ iPhone ทุกวันนี้เพราะไม่อยากปวดหัวกับ Android
iOS
BBM You are late
ครั้งหนึ่งใครๆ ก็ใช้ Blackberry ไม่ใช่เพราะมันมี App ดีมากมาย แต่หลักๆ ก็เพราะมันมี Blackberry Messenger ที่ส่งข้อความให้คนที่ใช้ BB ด้วยกันได้ทันที เรียกว่า ติ๊งๆ กันได้ทั้งวันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทั้งสาวก iPhone และ Android ต่างก็มองตาปริบๆ ประมาณว่า “คุยกับฉันบ้าง”
แล้วก็มี Whatsapp ที่เริ่มทำให้กระแสเปลี่ยน ทั้ง iPhone และ Android ในที่สุดก็คุยหากันได้ แต่มาเต็มที่ก็เมื่อ LINE ออกมาพร้อมสติกเกอร์มากมายหลายแบบ คนใช้แทบไม่ต้องคุยกัน ส่งสติกเกอร์ให้เดาคำพูดกันทั้งวัน
คนที่ใช้ BB อยู่เดิมที่มี BBM เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตา ตอนหลังก็ต้องวิ่งหา LINE มาลงไม่งั้นไม่มีเพื่อนคุยด้วย คุยไปคุยมาเพื่อนชวนเล่นเกมส์สนุกๆ งานเข้าละซิ Blackberry ไม่มี
กระแส BB เลยหดหายไปตามกาลเวลา เหลือแต่คนที่ใช้สำหรับธุรกิจจริงๆ
ล่าสุด Blackberry ออก BBM สำหรับ iOS คงเป็นความพยายามที่จะดึผูใช้กลับมาที่ Blackberry แต่ผมว่ามันสายไปแล้ว
– Posted using BlogPress from my iPad 2 Limited Ed.
Location:Khu Khot,Thailand
Apple iOS 7 beta 6
Operating System ของ Apple บน iPhone, iPad และ iPod ซึ่งตอนนี้มาถึง version 6 แล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังมีรุ่น 7 ให้ออกมาทดสอบซึ่งขณะนี้เป็น beta 6 แล้ว ซึ่ง version 7 นี้ได้เปลี่ยนแปลงหน้าตา interface ไปอย่างมาก หลายๆ คนก็ชอบว่าดูทันสมัยดี ในขณะที่หลายคนก็บอกว่ามันเหมือน Android หรือ Windows Phone แต่ที่รู้แน่ๆ ว่ามี feature ใหม่ๆ กลายอย่าง
Instagram – What are you doing?
ใครๆ ก็รู้ว่า Instagram เป็น App ถ่ายภาพที่ได้ภาพออกมาสวย และสามารถ post ไปอวดคนอื่นๆ ได้แบบไม่อายใคร อีกทั้งมีดาราทั้งไทยและเทศ post รูปต่างๆ ให้ follower ได้ติดตามอย่างมาก เมษาที่ผ่านมา Instagram โดน Facebook ซื้อไปด้วยราคา 1000 ล้านเหรียญ และอีกไม่นานก็ออก app บน Android ซึ่งเดิมชาว iOS ภูมิใจนักหนากับ App ตัวนี้
วันนี้ทาง Instagram ได้ออก update Term of Service ใหม่ http://instagram.com/about/legal/terms/updated/ ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าด้วย TOS อันนี้ Instagram สามารถนำรูปของเราไปขายต่อให้คนอื่นได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่า license ให้กับเราซักบาทเดียว
1. Instagram does not claim ownership of any Content that you post on or through the Service. Instead, you hereby grant to Instagram a non-exclusive, fully paid and royalty-free, transferable, sub-licensable, worldwide license to use the Content that you post on or through the Service, except that you can control who can view certain of your Content and activities on the Service as described in the Service’s Privacy Policy, available here: http://instagram.com/legal/privacy/.
2. Some or all of the Service may be supported by advertising revenue. To help us deliver interesting paid or sponsored content or promotions, you agree that a business or other entity may pay us to display your username, likeness, photos (along with any associated metadata), and/or actions you take, in connection with paid or sponsored content or promotions, without any compensation to you. If you are under the age of eighteen (18), or under any other applicable age of majority, you represent that at least one of your parents or legal guardians has also agreed to this provision (and the use of your name, likeness, username, and/or photos (along with any associated metadata)) on your behalf.
มาดูกันว่าก่อนวันที่ 16 ม.ค. ที่ TOS นี้จะมีผล ผู้ใช้ทั่วโลกจะมีปฏิกิริยาอะไรกับ TOS อันนี้บ้าง
Instagram เป็น app ถ่ายภาพและโพสรูปขึ้นไปบน Internet ที่นิยมมาก ที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ app ตัวนี้มีแต่บน iOS ทำให้ผู้ใช้จำกัดอยู่แต่กลุ่มของผู้ใช้ iPhone iPad iPod ที่รู้กันว่า….
จนมาสัปดาห์ที่แล้ว Instagram ออก app บน Android ทำให้มีผู้ใช้อีกกลุ่มหนึ่งที่รอคอยอยู่นานแสนนานเข้ามา มีรูปจากAndroid เข้ามามากมาย
แล้ว drama ก็เกิด!
ผู้ใช้งานบน iOS ส่วนหนึ่งรู้สึกว่าการที่ไม่ได้เป็น exclusive for iOS อีกต่อไปทำให้ app ตัวนี้เสียเอกลักษณ์ไป รูปที่มาจาก Android ไม่มีคุณภาพบ้าง และลามไปเป็นสงครามระหว่าง Android กับ iOS ในที่สุด เป็นกันทั้งในเมืองไทยและเมืองนอก
ล่าสุดเช้านี้ทาง Facebook ประกาศว่าได้ซื้อ Instagram ในราคา 1000ล้านเหรียญ ทำเอาแฟนๆ Instagram บางคนประกาศเลิกใช้ไปเลย
อะไรมันจะขนาดนี้ ถ้าออก Windows Phone 7 กับ Symbian มามิฆ่าตัวตายเลยหรือ?
– Posted using BlogPress from my iPad 2 Limited Ed.
Location:Luang Wichian Phaetthayakhom,Mueang Nonthaburi,Thailand
Fitbit–Time to Exercise
Just received a new Fitbit from Poppap this afternoon. It is a pedometer which is count wearer’s step during a day and calculate how many calorie burnt. This version also has pressure sensor, so it knows how many floor I go up or down (if I use the stair). It will wirelessly sync back to Fitbit server when I come close to Fitbit base. The meal info can be enter on iOS app (hope it has Thai meal in their database too).
Let’s see how fun it is.
Back to the Basic
เห็นกระแส iPhone กับ Android ที่แข่งกันดังมาอย่างติดๆ ในส่วนของ iPhone ก็จวนที่จะออกรุ่นใหม่อยู่รอมร่อ ทางด้าน Android จากหลายยี่ห้อก็ตบเท้าออกรุ่นใหม่กันแทบทุกเดือน เล่นเอาคนที่ชอบของรุ่นล่าสุดนั้นตามข่าวกันแทบไม่กระพริบตา
ผมเองก็ใช้ Smart Phone มาหลาย OS แล้วเหมือนกัน ตั้งแต่เจ้า PocketPC, Windows Mobile, Android และ iOS สิ่งหนึ่งที่เจอกับตัวเองก็คือ แบตเตอรี่ที่หมดเร็ว ยิ่ง feature มากเท่าไหร่ก็ยิ่งหมดเร็วขึ้นเท่านั้น อย่างเจ้า Nexus One ที่ใช้แต่ Net อย่างเดียวแทบไม่ได้ใช้โทรเลย บ่ายๆ ก็ต้องหาสายชาร์ตแล้ว ดังนั้นเมื่อเจ้า Diamond ที่เป็นเครื่องที่ใช้โทรประจำถึงแก่กาลเวลาที่ต้องเปลี่ยน ทั้ง iPhone และ Android ก็เลยโดนตัดออกจากตัวเลือก
สุดท้ายก็มาจบลงที่ Nokia C6-01ที่เป็น Symbian Anna ดู spec แล้วก็ไม่ได้ขึ้เหร่เลย เพียงแต่ App อื่นๆ ไม่เยอะมากเท่านั้น (ก็จะใช้โทรเป็นหลักอยู่แล้ว) กล้อง 8M pixel นี้มากกว่า iPhone และ Android หลายๆ รุ่นซะอีก แต่ที่สำคัญก็คือ standby ได้กว่า 10 วันบน 3G!! จริงๆ แค่เกิน 2 วันก็ดีใจจะแย่แล้ว ที่สำคัญราคาไม่ถึง 8000 บาท
ลองมาเล่นแล้วก็พบว่า C6-01 นั้นไม่ได้ขี้เหร่เลย ตัวเครื่องเป็น Stainless จับถนัดมือดี ส่วนจอนั้นดำได้ดำสนิทจริงๆ ถ้าปิดไฟในห้องแล้วจะมองไม่เห็นจอเลย การตอบสนองการเรียกใช้งานต่างๆ เร็วมาก ที่เหลือก็คงต้องมารอดูกันว่าแบตจะใช้ได้จริงๆ กี่วัน
ท่ามกลางกระแส Smart Phone ขณะนี้ ก็ยังหวังลึกๆ ว่า Nokia คงไม่ล้มหายตายจากไป เพราะ brand Nokia นี้อยู่คู่กับโทรศัพท์มือถือมาตั้งแต่เริ่ม ยิ่งไปร่วมมือกับทาง Microsoft ที่จะใช้ Windows Phone 7 กับมือถือของตัวเองในปีหน้านั้นยิ่งกังวล
เอาใจช่วยครับ
WWDC 2011–Another Year for Apple
งาน WWDC หรือ WorldWide Developers’ Conference เป็นงานประจำปีที่ทาง Apple จะมาเปิดตัวหรือแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในอดีต iPhone รุ่นแรก และ iPhone 4 ก็มาเปิดตัวในงานนี้
ปีนี้ก็จะเป็นอีกครั้งที่ Apple จะมาเปิดตัวสิ่งใหม่ๆ แต่ครั้งนี้ทาง Apple ได้บอกชื่อมาหมดแล้ว ก็คือ iCloud, Mac OS X Lion และ iOS 5 ซึ่งรายละเอียดก็คงต้องตามดูกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ Apple แฟนติดตามกันก็คือ Steve Jobs จะปรากฎตัวในงานนี้หรือไม่ เพราะได้ลาป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว